10 ความเข้าใจผิด เกี่ยวกับสินค้าญี่ปุ่น
:
หลายคนยังมีความเข้าใจผิด เกี่ยวกับสินค้าญี่ปุ่น
วันนี้แอดมินรวบรวมข้อมูลมาฝากกันค่ะ
1. ต้อง Made in Japan
สินค้าญี่ปุ่นกว่า 90% ไม่ได้ made in Japan !!
ดังนั้น การที่เราซื้อสินค้าโดยตรง จากประเทศญี่ปุ่น
ไม่ว่าจะบินไปหิ้วเอง หรือสั่งของผ่านเว็บ official
พลิกป้ายดู พบว่า made in China, made in Vietnam หรือประเทศอื่นๆ
"เป็นเรื่องปกติ"
เพราะฐานกำลังการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของโลก อยู่ที่ประเทศจีนค่ะ
:
แต่... แต่ ... แต่...
สินค้าทุกชิ้น จะผ่านการ QC โดยบริษัทของญี่ปุ่น
ไม่ว่าจะผลิตจากประเทศใดก็ตาม
บริษัทที่ญี่ปุ่น จะเช็คคุณภาพ
ตรวจสอบให้ผ่านตามมาตรฐานการันตีของญี่ปุ่น
ก่อนออกวางจำหน่ายเสมอ
ถ้าเราซื้อของจากประเทศญี่ปุ่น จึงมั่นใจได้ว่า คุณภาพดีแน่นอนค่ะ
:
2. หาได้ตามห้าง / ร้านค้าทั่วไป
ใครที่พูดประโยคนี้ ส่วนใหญ่คือคนที่ไม่เคยไปประเทศญี่ปุ่นค่ะ
ญี่ปุ่น ไม่ได้มีของทุกอย่างในห้าง
ไม่ได้มีร้านข้างทาง ที่ขายทุกอย่างแบบบ้านเรา
เดินจนขาลาก ก็อาจจะหาไม่เจอ
:
สินค้าแต่ละอย่าง มีแหล่งซื้อเฉพาะ
เช่น จะซื้อโมเดล ฟิกเกอร์ ต้องไปย่าน Akihabara
จะซื้อของมือสอง ต้องไปโกดัง หรือ Book Off
หาสินค้า Kitty ก็ต้องเข้า Hello Kitty Shop
ขนมของฝากยอดฮิต ส่วนใหญ่อยู่ตามสนามบิน หรือสถานีใหญ่ๆ
หากไปซื้อในร้านสะดวกซื้อ ก็คงจะไม่ได้กิน
:
3. คนขายพูด / แชท เป็นภาษาอังกฤษได้ทุกร้าน
เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่น ถ้าไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต
ส่วนใหญ่ คนญี่ปุ่นจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ค่ะ
:
หรืออาจจะพูดได้บ้าง แต่ไม่สะดวกใจที่จะคุยกับคนต่างชาติ
ถ้าเจอคนใจดี ก็อาจจะใช้ Application แปลภาษาช่วยเรา
แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องเสียเวลาสำหรับบางคน เพราะชีวิตเขาค่อนข้างเร่งรีบกัน
:
บางคน ต้องการซื้อของใน IG หรือใน เว็บญี่ปุ่น
แล้วแชทถาม เป็นภาษาอังกฤษ
รอ รอ รอ เขาก็ไม่ตอบ...
เพราะเขาไม่ต้องการขายให้คนต่างชาติ
หากมีปัญหากับสินค้า กลัวยุ่งยากในภายหลัง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเคลมสินค้า ปัญหาการขนส่ง
ดังนั้น ลองถามเป็นภาษาญี่ปุ่น รับรองว่าตอบไวขึ้นเลยค่ะ
:
4. สินค้ามือสอง ราคาถูกเสมอ
ไม่เสมอไปค่ะ สินค้ามือสองบางอย่าง
ยิ่งเก่ายิ่งดี ยิ่งสวยยิ่งได้ราคา
โดยเฉพาะพวกฟิกเกอร์โมเดล รุ่นเก่าๆ หายาก
รุ่น First Limited หรือที่เขาเลิกผลิตกันแล้ว
นักสะสมตามหากัน เป็นแรร์ไอเทม
ราคาก็จะสูงกว่าตอนออกใหม่ๆหลายเท่าตัว
:
5. คำว่า "รวมภาษี" แปลว่า "ไม่ต้องเสียภาษีแล้ว"
มีหลายคนเข้าใจผิดกันเยอะ และพอของถึงไทย ก็โดนภาษีกัน
เวลาเข้าหน้าเว็บญี่ปุ่น แล้วเห็นคำว่า tax included
หรือกด google translate แปลว่า รวมภาษี
อันนั้นหมายถึงภาษีมูลค่าเพิ่มของสินค้า 10% ซึ่งเป็นภาษีของญี่ปุ่น
"ไม่เกี่ยวกับภาษีที่ประเทศไทยค่ะ"
:
6. จัดส่งของไว เหมือนที่ไทย
ญี่ปุ่นไม่ได้ส่งของไวเหมือนที่ไทย
คนไทยเราติดความสบาย คนขายต้องรีบส่งให้ไวที่สุด
แต่ผู้ขายที่ญี่ปุ่น เขาจะมีรอบส่ง
บางร้านไวสุด ก็จัดส่ง 1-2 วัน
ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ใน 1 สัปดาห์
:
แต่ถ้าเป็นสินค้าพรีออเดอร์ รอของหลายเดือน หรือข้ามปี
ดังนั้น อย่าคาดหวังการจัดส่งไวจากทุกร้านในญี่ปุ่น
:
7. ซื้อ online ก็ทำ Vat Refund ได้
"ทำไม่ได้ค่ะ"
การทำ Vat Refund มีไว้สำหรับนักท่องเที่ยว ที่ไปซื้อเองที่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น
และถึงจะไปหน้าร้านเอง ก็ไม่ใช่ว่าทุกร้านจะเข้าร่วม Vat Refund / Tax Free
การซื้อของออนไลน์ ปกติสินค้าจะรวม Vat 10% สำหรับทุกรายการค่ะ
:
8. มีขนส่งของทางรถ เหมือนพรีจีน
ประเทศญี่ปุ่นเป็นเกาะ ดังนั้น ขนส่งจึงมีแค่ทางเรือ กับทางเครื่องบินค่ะ
ไม่ได้มีส่งทางรถเหมือนของจีน
:
ส่งแอร์ EMS เร็วสุด 3 วันทำการ
ส่งเรือ ประมาณ 20-30 วัน ขึ้นอยู่กับชิปปิ้งแต่ละเจ้าค่ะ
:
9. ซื้อเยอะ มีราคาส่งทุกร้าน
ญี่ปุ่นเป็นประเทศแห่งการแบ่งปัน สินค้าหลายอย่าง จำกัดการซื้อ ไม่ให้ซื้อเยอะ
บางร้าน ซื้อเยอะ มีคูปองลดราคา แต่ก็ไม่ได้ถึงกับราคาส่ง
:
หากต้องการราคาส่ง จะมีร้านที่เขาขายส่งอยู่แล้วโดยเฉพาะ
ส่วนใหญ่จะเป็นพวกสินค้าอุปโภค บริโภค
:
ถ้าเป็นสินค้า Limited Japan Only ไม่มีราคาส่งค่ะ
เพราะแค่แย่งกันซื้อ ก็หมดไวในพริบตา
:
10. ติดต่อ Dealer ได้ด้วยตัวเอง
คนญี่ปุ่นมีธรรมเนียมของลำดับขั้นตอน
การซื้อของจำนวนเยอะ กับบริษัทแม่โดยตรง
ไม่ได้แปลว่าเขาจะขายให้เรา เพราะกำลังการผลิต มีจำกัดเช่นกัน
:
การติดต่อบริษัทโดยตรงด้วยตัวเอง หากเป็นคนต่างชาติ โอกาสยากมากค่ะ
หากต้องการติดต่อเป็น Dealer ต้องนัดหมายเจรจาธุรกิจทางการ ไปพบด้วยตัวเอง และมีล่ามแปลภาษาญี่ปุ่น
:
สนใจเรียนนำเข้าสินค้าญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
สอนโดย ครูแจง มลฤดี ทีบุญมา
ติดต่อได้ที่ Line : @itshonitraining
หรือ
เพจ "จับเสือมือเปล่า Pre-order Japan รวยได้ไม่ง้อทุน"
>> m.me.buybidjapan