MK Taxi ไม่ใช่สุกี้ แต่เป็น แท็กซี่ญี่ปุ่น!!😄
:
ตอนไปญี่ปุ่นครั้งแรก เคยเห็นป้าย MK Taxi ก็คิดไปเองว่า
เอ๊ะ! MK สุกี้มีมาเปิดที่ญี่ปุ่นด้วยหรอ แล้วทำไมมีคำว่าแท็กซี่ด้วยล่ะ🚖
:
ตอนหลังถึงจะรู้ว่า
MK คือชื่อบริษัทแท็กซี่ของญี่ปุ่น ไม่ใช่มีสุกี้เป็นผู้สนับสนุน 😅
:
แท็กซี่ในญี่ปุ่นมีหลายบริษัท สังเกตุได้จากบนหลังคาแท็กซี่
แต่เราไม่ต้องจำหรอกค่ะ คันไหนว่างก็เรียกใช้บริการได้เลยค่ะ😁
:
เวลาจะโบกรถแท็กซี่ที่ญี่ปุ่น โดยเฉพาะในเมือง ไม่ใช่นึกอยากจะโบกตรงไหนก็โบกได้แบบบ้านเรา
เขาจะมีจุดจอดแท็กซี่ เรียกว่า “Taxi のりば” (อ่านว่า Taxi Noriba)
แท็กซี่ที่จอดที่ป้ายจอด คือว่าง พร้อมรับผู้โดยสาร สามารถขึ้นได้เลยค่ะ
แต่ต้องเข้าคิวขึ้นคันแรกนะคะ ไม่ใช่ชอบคันนี้ จะขึ้นคันนั้น เลือกไม่ได้ค่ะ รันตามคิว
:
จุดจอดรถแท็กซี่ส่วนใหญ่จะอยู่หน้าสถานีรถไฟ หน้าห้าง หน้าโรงแรม ใกล้ๆ ป้ายจอดรถบัส หรือจุดใหญ่ๆที่คนพลุกพล่าน สังเกตุได้ไม่ยากค่ะ
:
แต่ถ้าจะโบกเรียก ให้สังเกตุป้ายไฟตรงมุมซ้ายล่างแบบบ้านเราค่ะ
วิธีสังเกตุป้ายไฟรถแท็กซี่ญี่ปุ่น
ไฟสีแดง คือว่าง
ไฟสีเขียว คือมีผู้โดยสารแล้ว
:
🟢การขึ้นรถแท็กซี่ สำหรับคนที่เพิ่งเคยไปญี่ปุ่น🟢
❌ไม่ต้องเปิดประตูรถค่ะ❌
ให้ไปยืนรอตรงประตูหลัง เว้นระยะห่างมาทางท้ายรถสัก 1 เมตร
ประตูรถจะเปิดอัตโนมัติค่ะ!!
ย้ำ!! เปิด-ปิด อัตโนมัติ📌📌
:
ที่ย้ำเพราะว่า ถ้าเรายืนใกล้มาก ตอนประตูเด้งออกมา มันจะโดนเราค่ะ อาจจะเจ็บตัวได้
(แอดมินโดนมาแล้ว 😭😭)
:
ตอนลง ก็เหมือนกันค่ะ จ่ายเงินเสร็จ รับตังค์ทอน (ไม่ต้องให้ทิปนะคะ ธรรมเนียมเขาไม่รับทิปค่ะ ทอนครบทุกเยน)
รอประตูเด้งออก เอาตัวลงไปจากรถ แล้วหนีให้พ้นรัศมี อย่ารีรอ คนขับเขาจัดการเองค่ะ ไม่ต้องช่วยเขาปิด❌
:
คนขับรถแท็กซี่ส่วนใหญ่พูดแต่ภาษาญี่ปุ่น น้อยมากที่จะสื่อสารภาษาอังกฤษได้
ควรเตรียมชื่อสถานที่ที่เราจะไป พร้อมที่อยู่ญี่ปุ่น เพราะคนขับสามารถหา GPS แล้วพาเราไปได้ค่ะ✅
:
หรือใครกังวลเรื่องการสื่อสาร ลองสอบถามโรงแรมที่พัก ให้ช่วยสื่อสาร ประสานงานเรียกรถแท็กซี่ให้ค่ะ
ไม่ก็เรียกผ่าน App เรียกแท็กซี่ ก็จะสามารถระบุพิกัดต้นทาง ปลายทางได้
ปล. ยังไม่เคยเจอคนขับรถปฏิเสธผู้โดยสาร แม้จะไม่รู้ว่าเราจะไปไหน เขาก็รับเราขึ้นไปก่อน แล้วจิ้ม GPS จนไปถึงได้ค่ะ ประทับใจมาก ❤️❤️
:
บทความโดย แอดมินกิ๊กจัง
:
: